ความแตกต่างระหว่างการทำ SEO สำหรับธุรกิจ B2B และ B2C
ถ้าหากแบ่งธุรกิจในปัจจุบันตามกลุ่มลูกค้าที่พบได้โดยทั่วไป ก็จะสามารถแบ่งได้สองแบบ นั้นคือธุรกิจ B2C หรือ Business to Customer และธุรกิจ B2B หรือ Business to Business โดยที่ทั้งสองแบบ มีความแตกต่างกันดังนี้
ธุรกิจ B2C หรือ Business to Customer คือธุรกิจที่ค้าขายกันระหว่างผู้ประกอบการ กับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภค เช่น การขายหนังสือ ขายต้นไม้ ขายของใช้ในครัวเรือน เป็นต้น
สำหรับธุรกิจ B2B หรือ Business to Business คือธุรกิจที่ค้าขายกันระหว่างผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการด้วยกันเอง ยกตัวอย่างเช่น การค้าขายระหว่างโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์กับร้านขายเฟอร์นิเจอร์, การค้าระหว่างร้านขายส่งกระถางต้นไม้ กับร้านขายปลีกต้นไม้ เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจแบบ B2B จะมีความซับซ้อนมากกว่าธุรกิจแบบ B2C เนื่องจากผู้ประกอบการธุรกิจ B2B จำเป็นจะต้องทำการค้นคว้าข้อมูล และวางแผนระยะยาว ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า เพราะการซื้อสินค้าครั้งหนึ่ง จะเป็นการซื้อในปริมาณมาก ดังนั้นแล้วหากสินค้าที่ซื้อมีคุณภาพไม่ดี หรือมีปัญหาระหว่างการซื้อ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก
จะเห็นว่าธุรกิจทั้งสองรูปแบบจะมีความซับซ้อนและกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ลูกค้าของกลุ่มธุรกิจ B2B ก็จะเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยกันเอง ในขณะที่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2C ก็จะเป็นผู้บริโภคทั่ว ๆ ไป ดังนั้นแล้วการทำ SEO สำหรับธุรกิจทั้งสองประเภทนี้ ก็จะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้เราจะพามาดูความแตกต่างในการทำ SEO ทั้ง 4 ด้านด้วยกัน คือ ความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมาย การเลือกใช้คีย์เวิร์ด รูปแบบของเนื้อหา และการใช้โซเชียลมีเดีย
<img alt="content-traget" class="img-responsive" data-entity-type="file" data-entity-uuid="-" src="/sites/storage/files/users/staff/blog/SEO/content-traget.png" title="content-traget" width="1200" />